เทคนิคการขายภาพออนไลน์สำหรับคนมีเวลาน้อย



สำหรับผู้เริ่มต้นขายภาพออนไลน์ ที่ทำงานประจำมักประสบปัญหาในเรื่องของเวลาที่จำกัด ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ไหนจะต้องทำงานบ้าน เลี้ยงลูก หรือทำธุระส่วนตัวอะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้ไม่มีเวลาในการถ่ายภาพ ส่งภาพ บทความนี้เป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้คุณสามารถขายรูปออนไลน์ได้ ถึงแม้จะมีเวลาอย่างจำกัด ทำอย่างไรไปติดตามรายละเอียดกัน

1.  ใช้เวลาก่อนนอนประมาณ 30 นาที นั่งดูภาพจากเว็บไซต์ตัวแทนขายภาพ ซึ่งมีให้ดูอยู่หลายเว็บไซต์ ดูเพื่อเป็นแนวทางนะครับ ว่าภาพแนวไหนเราสามารถทำได้ คำว่าทำได้หมายความว่าเรามีพร็อพ มีเครื่องมือสำหรับการถ่ายภาพแนวนั้นมากน้อยแค่ไหน สำหรับผมเองผมเลือกแนวถ่ายภาพหลังขาวซึ่งเป็นแนวภาพที่ขายดีระดับหนึ่ง เพราะผมทำกล่องไฟแบบ DIY เอาไว้เรียบร้อย และสามารถหาวัตถุต่าง ๆ ได้จากภายในบ้าน สำหรับการนั่งดูภาพของคนอื่นนั้นเพื่อดูว่าเขาถ่ายภาพแนวที่เราต้องการทำกันอย่างไรบ้าง เป็นการหาแนวทางสำหรับนำมาประยุกต์ใช้สำหรับการถ่ายภาพของเรา ห้ามลอกงานของคนอื่นเป็นอันขาด การที่เราไปลอกงานใครนั้นนอกจากจะเป็นเรื่องที่ผิดจรรยาบรรณต่อเพื่อนร่วมอาชีพแล้ว ยังเป็นการสร้างคู่แข่งให้กับตนเองไปโดยปริยาย สมมุติว่าคุณนั่งดูภาพแก้วเซรามิก แล้วเกิดความชอบ จึงถ่ายภาพแก้วเซรามิกบ้าง โดยไปหาแก้วสีเดียวกับแบบคล้าย ๆ กันมาวางในลักษณะเดียวกัน ถ่ายมุมเดียวกันกับที่คุณดูมา นั่นแหละครับเป็นการสร้างคู่แข่งเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะเป็นการเพิ่มงานแบบเดียวกันที่เหมือนกันขึ้นมาอีก 1 ชิ้น ถ้างานของเรามีคุณภาพด้อยกว่า โอกาสที่ลูกค้าจะดาวน์โหลดรูปภาพของเราย่อมน้อยลง

สรุปสำหรับหัวข้อนี้คือหาแนวทางการถ่ายภาพให้ได้ ที่สำคัญคือแนวทางที่คุณเลือกนั้นต้องสามารถถ่ายภาพได้ในปริมาณมากด้วยนะครับจะได้ไม่เสียเวลา ขอเสริมอีกนิดคือเมื่อได้แนวทางแล้ว เราจะเกิดความคิดว่าเราจะถ่ายภาพอะไร ใช้พร็อพอะไร จดแนวคิด และพร็อพที่ต้องใช้ลงในสมุดบันทึก แล้วดูข้อต่อไป

2.  ใช้เวลาช่วงใดก็ได้ที่คุณว่าง หรือคุณมีโอกาส หาพร็อพให้เข้าแนวทางที่คุณเลือกเตรียมเอาไว้ให้พร้อม นำมาจัดเรียงเป็นชุด ๆ เอาไว้ในพื้นที่ ๆ คุณถ่ายภาพ เรียกได้ว่าพอนึกถึงอะไรต้องสามารถหยิบมาประกอบฉากถ่ายภาพได้ทันที

3.  มีพื้นที่สำหรับถ่ายภาพโดยเฉพาะ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นมุมถ่ายภาพเลยก็ว่าได้ พื้นที่ส่วนนี้ควรมีหน้าต่างที่เปิดได้ เพราะเราจะสามารถใช้แสงจากหน้าต่าง เพื่อถ่ายภาพแสงธรรมชาติในเวลากลางวัน และเตรียมชุดไฟ DIY พร้อมกับโต๊ะ และเก้าอี้ที่จะใช้เอาไว้ให้พร้อม จัดให้เรียบร้อยไม่รุงรัง มีพื้นที่สำหรับเดินสำหรับขยับตัวแบบสบาย ๆ นะครับ อย่าให้แออัด

4.  เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ถ่ายภาพให้ได้วันละ 5 ใบ (เผื่อโดนปฏิเสธไว้ 2 ใบ ผ่าน 3 ใบ) ข้อนี้สำคัญมากคือต้องทำให้ได้ ไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยอย่างไร การที่เราเตรียมทุกอย่างเอาไว้พร้อมจากข้อ 1-3 นั้นเป็นการลดภาระได้ในระดับหนึ่งแล้ว เพียงแค่เราถ่ายภาพของที่เราเตรียมไว้พร้อมแล้ว จะไม่เกิดความรู้สึกเหนื่อย และไม่มีความจำเป็นต้องถ่ายภาพมาก ๆ ในเวลานั้น ถ่ายภาพให้เป็นกิจวัตรประจำวันเหมือนกับการทานข้าว การอาบน้ำ ซึ่งน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 40 นาทีต่อวัน ถ่ายภาพด้วยความตั้งใจพยายามจบหลังกล้องให้ได้มากที่สุด

5.  ถ้าต้องแต่งภาพบ้างไม่จำเป็นต้องทำทุกวัน การถ่ายภาพทุกวันนั้นถือเป็นการสะสมภาพไปในระดับนึงแล้ว เลือกวันสบาย ๆ นั่งแต่งภาพ จะแต่งได้มากได้น้อยก็ขึ้นอยู่กับเวลาที่คุณมี ยังไม่จำเป็นต้องส่งภาพในวันที่คุณแต่งภาพก็ได้เพราะดูจะเป็นการบีบค้นมากจนเกินไป

6.  เมื่อมีเวลาว่างเช่น ตอนพักเที่ยง หลังจากทานอาหารเสร็จ ใช้เวลา 30 นาทีที่เหลือให้เป็นประโยชน์ หา Description และ Keyword เตรียมเอาไว้ให้พร้อมบันทึกใน Notepad เอาไว้เลย App Notepad สำหรับสมาร์ทโฟนนั้นมีให้เลือกมากมาย บันทึกเก็บเอาไว้ใน Line Keep ก็ได้ครับสะดวกดี และถ้าจะให้สะดวกมากขึ้นควรติดตั้ง Line PC บนเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย เพราะจะช่วยให้เราสามารถเปิดไฟล์ที่เราบันทึกเอาไว้ใน Keep ได้จากบนเครื่องคอมพิวเตอร์เลย ไม่ต้องเสียเวลาโอนไฟล์อีก

7.  วันที่คุณรู้สึกว่ามีเวลาพอที่จะส่งภาพแล้ว ค่อยส่ง แล้วคุณจะมีความรู้สึกดีมาก ๆ ตอนส่งงาน เพราะว่าทุกอย่างได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว แค่อัปโหลดรูปภาพ และคัดลอกข้อความทั้ง Description และ Keyword จากไฟล์ที่เตรียมเอาไว้ วางลงในขั้นตอนการส่งภาพได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลามานั่งคิดหรือทำอะไรอีก

ทั้งหมดที่เขียนมาให้อ่านนี้ ต้องใช้ความยืดหยุ่นในการทำ ทุกคนเมีเวลาเท่ากันก็จริง แต่ภาระ หน้าที่ของทุกคนนั้นไม่เท่ากัน จำเป็นต้องบริหารให้ได้ แล้วการขายรูปออนไลน์ก็จะเป็นอาชีพที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับเราได้แบบไม่รู้สึกว่าเป็นภาระ แต่เป็นอะไรที่เราอยากทำมากขึ้น เมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้นทุกวัน หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับคุณไม่มากก็น้อยนะครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปครับ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ


โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การเข้าสู่ระบบ Shutterstock ในส่วนของคนขายภาพ

การเลือกภาษาบน Shutterstock Contributor ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น

3 เว็บไซต์ที่ผู้เริ่มต้นควรส่งภาพไปขาย