3 เว็บไซต์ที่ผู้เริ่มต้นควรส่งภาพไปขาย

3 เว็บไซต์ที่ผู้เริ่มต้นควรส่งภาพไปขาย



ต้องยอมรับว่าเว็บไซต์ตัวแทนขายภาพนั้นมีอยู่มากมาย จนผู้เริ่มต้นไม่สามารถเลือกได้ เพราะฉะนั้นจึงควรส่งภาพตามคำแนะนำจากผู้ที่ขายภาพออนไลน์มาเป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งจะคุ้นเคย และมีประสบการณ์จากการส่งภาพกับเว็บไซต์ต่าง ๆ เพราะช่วยให้ประหยัดเวลาลองผิดลองถูกลงไปได้มาก สำหรับ 3 เว็บไซต์ที่แนะนำให้ผู้เริ่มต้นส่งภาพไปขายมีดังต่อไปนี้

Shutterstock.com เป็นเว็บไซต์ตัวแทนขายภาพที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ เนื่องจากระบบออกแบบมาดี ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับ Contributor ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้หากมองกันที่ยอดดาวน์โหลดเว็บไซต์แห่งนี้จะมียอดดาวน์มากกว่าเว็บไซต์อื่น ๆ แต่ด้วยกลไกของการสร้างรายได้ที่ถูกออกแบบมาใหม่ อาจจะทำให้ผู้เริ่มต้นต้องเหนื่อยกับการสร้าง Portfolio อยู่ไม่น้อย เพราะราคาต่อภาพอยู่ที่ $0.10 แต่หากโชคดีก็สามารถได้โหลดใหญ่ซึ่งก็จะมีราคาที่สูงขึ้น ซึ่งรายละเอียดของราคานั้นสามารถเยี่ยมชมได้ที่นี่ https://submit.shutterstock.com/payouts?language=th

Shutterstock นั้นมีตัวช่วยในการส่งภาพให้กับผู้เริ่มต้นได้อ่านทำความเข้าใจมากมาย และเป็นภาษาไทยอ่านเข้าใจได้ง่ายที่นี่ https://bit.ly/3zyhWXZ เมื่อมีปัญหาใด ๆ สามารถเข้าไปอ่านเพื่อแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเราเอง นอกจากนี้ด้วยความที่เป็นเว็บไซต์ที่ผู้คนให้ความสนใจในการส่งภาพกันมาก ทำให้ตัวช่วยต่าง ๆ มีมากไม่ว่าจะเป็น Fanpage หรือ กลุ่มต่าง ๆ ใน Facebook นั้นมีอยู่มากมาย

Adobe Stock เว็บไซต์ตัวแทนขายภาพที่ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจจะเป็นเว็บเบอร์ 1 ของใครหลาย ๆ คน ด้วยราคาต่อภาพที่ค่อนข้างสูง โดยเริ่มจาก 0.31, 0.33 ไปจนกระทั่งหลายเหรียญ แต่ต้องยอมรับว่าหากยังมีภาพน้อย และไม่ใช่ภาพแนวตลาด ในช่วงต้นนั้นยอดดาวน์โหลดจะค่อนข้างน้อยเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับในช่วงต้น แต่หากส่งภาพมาสักระยะหนึ่ง และมีภาพแนวตลาดแล้วยอดดาวน์โหลดก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ

เสน่ห์ของเว็บไซต์แห่งนี้คือมีการแจกโปรแกรม จากค่าย Adobe ให้ใช้งานฟรีจำนวน 12 เดือน และช่วงหลังมานี้ก็มีการแจกอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่จำนวนภาพที่ถูกดาวน์โหลดใน Portfolio ของเรา ต้องผ่านเกณฑ์ของ Adobe Stock นอกจากนี้ในช่วงกลางปีก็จะมีการคัดเลือกภาพที่เคยถูกดาวน์โหลดของเรา เข้าคัดเลือกในโปรเจ็ค Collection Free ซึ่งภาพใดถูกคัดเลือกจะได้รับ 5 เหรียญ โดยมีข้อตกลงว่าภายในระยะเวลา 12 เดือนนั้นภาพของเราที่ถูกเลือกจะไม่สามารถขายได้อีก

Istock photo เว็บไซต์แหน่งนี้เป็นหนึ่งในโปรเจ็คของ Getty Images ซึ่งเป็น Microstock ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน เสน่ห์ของเว็บไซต์แห่งนี้คือรับภาพไม่ยาก และมียอดดาวน์โหลดอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องยอมรับเรื่องราคาต่อภาพที่ต้องบอกเลยว่าจับทางได้ยาก บางทีก็ได้ราคาดีจนน่าใจหาย และในบางเดือนก็ได้ราคาไม่ค่อยดีจนน่าใจหายเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม หากส่งภาพเข้าไปจำนวนหนึ่งแล้ว เช่น เกิน 1,000 ใบขึ้นไป ก็จะมียอดการดาวน์โหลดที่น่าพอใจ แต่อย่างที่บอกก็คือต้องลุ้นกันในเรื่องของราคา

และนี่คือ 3 Microstock ที่ผู้เริ่มต้นขายภาพออนไลน์ ควรส่งภาพไปขายเป็นอันดับต้น ๆ 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ตำแหน่ง: ประเทศไทย

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การเข้าสู่ระบบ Shutterstock ในส่วนของคนขายภาพ

รูปภาพ
สำหรับผู้เริ่มต้นที่ใหม่มาก ๆ อาจจะมีปัญหาในการเข้าสู่ระบบของช่างภาพอยู่บ้าง เนื่องจากในเว็บไซต์ของ Shutterstock นั้นมีทั้งหน้าเว็บไซต์ที่เป็นส่วนของลูกค้าสำหรับเลือกซื้อรูปภาพ และส่วนของ Contributor ซึ่งเป็นส่วนของคนขายภาพ หากเข้าไม่ถูกต้องก็จะงงไปกันใหญ่ เพราะฉะนั้น ผมจึงเขียนอธิบายเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ดังนี้ครับ เริ่มจากเปิดเว็บไซต์ Shutterstock หรือจะคลิกที่ Link นี้ก็ได้ครับ  https://www.shutterstock.com/ เมื่อเข้าสู่หน้าเว็บไซต์แล้วให้เลื่อนหน้าเว็บเพื่อไปยังส่วนล่างสุดของหน้าเว็บไซต์ แล้วคลิกคำว่า Sell Content ตามภาพด้านล่าง หากเลือกแสดงหน้าเว็บไซต์เป็นภาษาไทยเมนูนี้จะมชื่อว่า เนื้อหาการขาย เพื่อความสะดวก สามารถเข้าเว็บไซต์โดยใช้ที่อยู่ของเว็บไซต์ได้ดังนี้  https://submit.shutterstock.com/ หากใช้วิธีเข้าโดยที่อยู่ก็ไม่จำเป็นต้องเลื่อนหาเมนูให้เสียเวลา เมื่อเข้าสู่หน้าเว็บเพจในส่วนของผู้ขายซึ่งมีลักษณะตามภาพด้านล่าง คลิกปุ่ม Sigh in บริเวณมุมบนขวามือของหน้าเว็บเพจ ปรากฎแบบฟอร์มสำหรับเข้าสู่ระบบขึ้นมา ใส่ Email และ Password ของเรา คลิกในช่อง
อ่านเพิ่มเติม

การเลือกภาษาบน Shutterstock Contributor ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น

รูปภาพ
บนเว็บไซต์ Shutterstock นั้น มีเมนูภาษาไทยให้เราเลือกใช้งาน แน่นอนว่าเมนูภาษาไทยนั้นเกิดประโยชน์โดยตรงกับคน ขายภาพออนไลน์ เป็นอย่างมาก เพราะอะไรที่เราแปลไม่ออก และเราไม่ทราบรายละเอียดก็ชัดเจนมากขึ้น การเปลี่ยนภาษานั้นสามารถทำได้หลาย ๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นส่วนบน หรือส่วนล่างของหน้าเว็บไซต์ ภาพนี้เป็นการเปลี่ยนภาษาเมื่อเข้าไปใน Portfolio แล้ว ส่วนภาพด้านล่าง เป็นการเปลี่ยนภาษานอก Portfolio สิ่งที่เราควรพิจารณาเมื่อเลือกภาษาก็คือ บางครั้งเราแปลไม่ออกเราก็มักจะเลือกภาษาไทย แน่นอนว่าเมนูต่าง ๆ ก็จะกลายเป็นภาษาไทย และช่วยให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีบ้างที่บางครั้งคำแปลภาษาไทยนั้นแปลออกมาไม่ตรง เราอาจจะเกิดอาการงงได้ เพราะฉะนั้น การใช้เมนูภาษาไทยบ้าง ภาษาอังกฤษบ้าง สลับไปมา ก็จะช่วยเพิ่มความเข้าใจให้เราได้มากขึ้น สิ่งที่ผู้เริ่มต้นต้องเรียนรู้ก็คือ ถึงแม้เมนูต่าง ๆ จะเป็นภาษาไทยก็จริง แต่ข้อมูลต่าง ๆ ที่เราใช้ในการส่งภาพนั้น มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้ภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น Description หรือ Keyword จะต้องเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งหมด ตรงส่วนนี้เพื่อป้องกันไม่
อ่านเพิ่มเติม